การวิเคราะห์รายได้น่าจะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุดเลยทีเดียว เนื่องจากความอยู่รอดของบริษัทนั้นต้องเริ่มจากการมีรายได้เข้ามาก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นการวิเคราะห์รายได้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและไม่ควรมองข้าม สำหรับแนวทางในการวิเคราะห์รายได้นั้นมีดังต่อไปนี้
1. ทำความเข้าใจธุรกิจ
2. อ่านรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานจากผู้บริหาร
3. วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของรายได้ (Trend analysis)
4. วิเคราะห์สัดส่วนของรายได้ในแต่ละประเภท (Common size analysis)
จริงๆแล้วในการวิเคราะห์รายได้ควรมองเรื่องปัจจัยคุณภาพต่างๆด้วย แต่ในที่นี้เป็นการสอนและอธิบายเฉพาะเรื่องงบการเงินเท่านั้นดังนั้นจะไม่ขออธิบายถึงปัจจัยเชิงคุณภาพต่างๆที่จะส่งผลต่อรายได้
ท่านใดสนใจหลักสูตรงบการเงินดูรายละเอียดที่นี้ "สอนอ่านงบการเงิน"
ทำความเข้าใจธุรกิจ
ก่อนที่เราจะไปวิเคราะห์ผลการดำเนินงานเรามาทำความเข้าใจกับธุรกิจของ HomePro กันเสียก่อน ซึ่งเป็นข้อมูลที่นำมาจากรายงานประจำปี 2560 โดยธุรกิจของ HomePro แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ธุรกิจค้าปลีก
1.1 ขายสินค้า (Hard line+Soft line)
1.2 บริการเกี่ยวเนื่อง (Home service)
* Hard Line : สินค้าที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง สี อุปกรณ์ปรับปรุงบ้าน ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ เครื่องครัว อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
* Soft Line : สินค้าประเภทเครื่องนอน พรม ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ สินค้าตกแต่ง และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน
2. ธุรกิจให้บริการพื้นที่ร้านค้าเช่า
สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทนั้นเป็นดังนี้
ธุรกิจบริษัทย่อยของ HomePro มีดังนี้
1. บริษัท มาร์เก็ต วิลเลจ จำกัด
ดำเนินธุรกิจในลักษณะของศูนย์การค้าเต็มรูปแบบภายในโครงการ นอกจากจะมีสาขาของโฮมโปรแล้ว ยังมีพื้นที่ในส่วนของศูนย์การค้า โดยผู้เช่าส่วนใหญ่ ได้แก่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร ร้านหนังสือ ร้านสินค้าไอที เป็นต้น
2. Home Product Center (Malaysia) SDN. BHD.
ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่ประเทศมาเลเซีย
3. บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด
ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้าง สินค้าเกี่ยวกับบ้านและของใช้ในครัวเรือน
4. บริษัท ดีซี เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด
เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้า และให้บริการขนส่งสินค้า
สำหรับโครงสร้างรายได้แต่ละประเภทของบริษัทจะเป็นดังต่อไปนี้
อ่านรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานจากผู้บริหาร
การอ่านงบการเงินจะทำให้เราทราบว่าผลการดำเนินงานและฐานะการเงินดีขึ้นหรือแย่ลงเป็นจำนวนเงิน หรือสัดส่วนเท่าไหร่ แต่เราจะยังไม่เห็นถึงที่มาและสาเหตุของผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดีขึ้นหรือแย่ลงนั้น เพราะในงบการเงินจะไม่ได้มีการอธิบายในส่วนนี้เอาไว้ ดังนั้นเราจึงควรอ่านรายงานการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานจากผู้บริหารเพื่อให้เข้าใจถึงที่มาและสาเหตุของผลประกอบการที่ดีขึ้นหรือแย่ลงนั้นประกอบด้วย
จากรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานจากผู้บริหารสามารถสรุปข้อมูลที่สำคัญๆได้ดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกนั้นไม่ดี แต่มาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
2. มีการเปิด HomePro เพิ่ม 1 สาขา และเปิด HomePro S 1 สาขา ในไทย และเปิด HomePro 4 สาขาในมาเลเซีย ณ สิ้นปีมีสาขา HomePro 81 สาขา HomePro S 3 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ HomePro ที่มาเลเซีย 6 สาขา การขยายสาขาเพื่อให้ประหยัดต่อขนาดและเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
3. รายได้เจากการขายติบโต 5% หลักๆจากการขยายสาขา , รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 4% จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่า , รายได้อื่นเติบโต 2% จากการเติบโตของรายได้ส่งเสริมการขายและ Home Service
4. กำไรขั้นต้นเติบโต 9% จากการปรับเปลี่ยนส่วนผสมของสินค้า และธุรกิจเมกา โฮม และ HomePro ที่มาเลเซียเริ่มดีขึ้น
5. การควบคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายลดลงจาก 23.08% มาเป็น 22.96%
วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของรายได้ (Trend analysis)
รายได้ : จากการทำ Trend analysis ในส่วนของรายได้พบว่ารายได้รวมของบริษัทเติบโต 5.1%ซึ่งถือว่าไม่มากอาจเป็นเพราะเศรษฐกิจของไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ทำให้ SSSG ไม่เพิ่มขึ้นและจำนวนสาขาของ HomePro ก็มากพอสมควรแล้ว และหากอ่านจากรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของผู้บริหารพบว่าสาเหตุการเพิ่มของรายได้นั้นเกิดจาก 1.รายได้เจากการขายติบโต 5% หลักๆจากการขยายสาขาใหม่ทั้ง โฮมโปร เมกาโฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 2.รายได้ค่าเช่าและบริการเติบโต 4% จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่า 3.รายได้อื่นเติบโต 2% จากการเติบโตของรายได้ส่งเสริมการขายและ Home Service |
จะเห็นได้ว่าหากเราไม่ได้มีการอ่านรายงานวิเคราะห์ผลการดำเนินงานจากผู้บริหาร เราจะไม่มีทางทราบได้เลยว่ารายได้นั้นเพิ่มขึ้น หรือลดลงเพราะอะไรจากการอ่านงบการเงิน
วิเคราะห์สัดส่วนของรายได้ในแต่ละประเภท (Common size analysis)
รายได้ : จากการทำ Common size analysis ในส่วนของรายได้พบว่าแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญที่สุดของบริษัทนั่นคือรายได้จากการขายซึ่งมีสัดส่วนที่สูงถึง 93% ส่วนรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ และรายได้อื่นๆ มีสัดส่วนพอๆกันที่ 3%-4% ไม่ได้มีผลกระทบต่องบการเงินมาก และนอกจานี้สัดส่วนรายได้ต่างๆไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นสาระสำคัญจากงวดก่อน |
---------------------------------------------------------
ฝากเพื่อนๆช่วยกันแชร์บทความเพื่อส่งต่อความรู้ดีๆและหากสงสัยตรงไหนสามารถสอบถามที่ Webboard ของเราตาม Link นี้ได้เลยครับ
https://www.investme.in.th/webboard.php
หากสนใจเรียนบัญชีในรูปแบบ Online เพิ่มเติมเพื่อให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ดูรายละเอียดตาม Link นี้ได้เลยครับ
8/209 หมู่บ้าน ทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์ ซอยอ่อนนุช 68 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250